ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘การทำการตลาด’ (Marketing) นั้น มีความสำคัญกับธุรกิจทุกประเภท ซึ่งธุรกิจร้านอาหารก็เช่นกัน หากเจ้าของร้านอยากเรียกลูกค้าเข้าร้าน หรือให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในฐานะเจ้าของร้าน คุณต้องเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการทำการตลาดให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากการตลาดในยุคนี้ ต้องเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแต่ละคนให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างตรงจุด
วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ‘Hyper Personalization’ ซึ่งเป็นวิธีการทำการตลาดรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ และเหมาะกับธุรกิจร้านอาหารเป็นอย่างมาก เพราะเป็นวิธีที่สามารถเข้าถึงข้อมูลความชอบของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งคุณจะสามารถมอบบริการที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด
Hyper Personalization คืออะไร?
ก่อนที่จะมารู้จักกับ Hyper Personalization เรามาทำความรู้จักกับการตลาดแบบ Personalization กันก่อนว่าคืออะไร? โดยเมื่อก่อนการทำการตลาดแบบ Personalization เป็นแค่การจำชื่อลูกค้า หรือส่งข้อความและอีเมลหาลูกค้า โดยมีชื่อของลูกค้าพาดหัวกำกับ ไปจนถึงการจำวันเกิดลูกค้าได้ พร้อมกับให้ส่วนลดพิเศษ
แต่การทำตลาดเพียงแค่นี้ อาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน จึงเกิดวิธีการทำการตลาดแบบ Hyper Personalization ขึ้นมา เพื่อเข้าถึงลูกค้าแบบตัวบุคคลมากขึ้น โดยการตลาดแบบนี้ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งไม่ใช่แค่ประวัติการซื้อสินค้าเท่านั้น แต่เป็นข้อมูลที่มาจากหลายช่องทาง เอามาประกอบกัน รวมทั้งข้อมูลที่ได้ต้องเป็นแบบเรียลไทม์ อย่างเช่น สิ่งที่ลูกค้าเพิ่งอ่านจบเมื่อกี๊ หรือสินค้าที่เพิ่งจ่ายเงินซื้อไป โดยข้อมูลเหล่านี้ จะถูกนำมาวิเคราะห์ และคาดเดาความต้องการของลูกค้าว่า สินค้าที่เขาจะกลับมาซื้อครั้งต่อไปคืออะไร เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูล มาพัฒนาสินค้าและบริการ หรือจัดทำโปรโมชั่น รวมทั้งทำการตลาดเพื่อลูกค้าคนๆ นั้นโดยตรง
อันที่จริงๆ แล้วข้อมูลที่ได้มา ไม่ใช่แค่ช่วยในเรื่องการวางแผนธุรกิจเพื่อเรียกลูกค้าเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้เห็นถึงปัญหา และสาเหตุของปัญหา รวมไปถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาอีกด้วย โดยวิเคราะห์จากฐานข้อมูลที่มีอยู่เดิม เพราะฉะนั้น เราจะเห็นได้ว่า ข้อมูลถือเป็นส่วนสำคัญในการทำการตลาดแบบ Hyper Personalization อย่างมาก เนื่องจากการรู้จักลูกค้าสักคน จำเป็นต้องมีข้อมูลจากหลายที่มาประกอบกัน และนำมาวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อรู้จักลูกค้าของคุณให้มากขึ้น ว่าแท้จริงแล้วลูกค้าของคุณเป็นใคร อยู่ในกลุ่มไหน ชอบเมนูไหนหรือไม่ชอบเมนูไหน รวมทั้งโปรโมชั่นไหนที่โดนใจลูกค้ามากที่สุด และช่วงวันไหนที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการร้านของคุณมากที่สุด
ดึงดูดลูกค้า ด้วยบริการที่ดีที่สุด
สำหรับเจ้าของร้านคนไหน อยากจะทำการตลาดแบบ Hyper Personalization แน่นอนว่าต้องเอาเทคโนโลยีอย่าง AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้การทำการตลาดของร้านคุณครบถ้วนและแม่นยำมากขึ้น หากไม่รู้ว่าจะใช้กับร้านอาหารอย่างไร มาใกล้ๆ เดี๋ยวเราจะบอกให้ฟังเอง
สมมุติว่า คุณเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง แล้วคุณต้องการใช้วิธี Hyper Personalization มาดูกันว่า ต้องเริ่มจากตรงไหนบ้าง
1. ระบบ POS ที่ใช้อยู่ แน่นอนว่าสามารถวิเคราะห์ข้อมูลร้านอาหารของคุณได้อยู่แล้ว แต่คุณต้องหาแบรนด์ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ครบถ้วน และข้อมูลเหล่านั้นต้องนำไปต่อยอดการใช้งานได้จริงอีกด้วย
2. ตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของลูกค้า อย่างประวัติการสั่งซื้อ วันเกิด เมนูที่สั่งบ่อย รวมทั้งช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้าร้านของคุณเป็นประจำ
3. จากนั้นก็เลือกดูข้อมูลเชิงลึกอย่าง ข้อจำกัดในเมนูที่สั่ง เช่น ลูกค้าคนนี้ชอบสั่งโกโก้เย็นหวานน้อย นอกจากนี้ คุณยังสำรวจความพึงพอใจอื่นๆ เวลาที่ลูกค้ามาใช้บริการร้านอาหารของคุณ อย่าง เช็กความคิดเห็นจากลูกค้า ผ่านรีวิวต่างๆ เป็นต้น
4. ใช้ระบบ Loyalty Program ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อให้เกิดความผูกพัน และไม่ให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปร้านอื่น โดยใช้การสะสมแต้ม ผ่านระบบอัตโนมัติ เพื่อให้ง่ายต่อการดึงข้อมูล จากนั้นคุณก็สามารถสร้างโปรโมชั่นมัดใจลูกค้าได้ง่ายขึ้น
5. หมั่นใส่ใจรายละเอียดของลูกค้า และอัปเดตข้อมูลของลูกค้าอยู่เป็นประจำ เผื่อวันไหนลูกค้าเกิดเปลี่ยนเมนูใหม่ จากเมนูเดิมที่สั่งเป็นประจำ คุณจะได้บริการลูกค้าได้ถูก รวมถึงวันเกิดของลูกค้า คุณจะได้เลือกเสิร์ฟเมนูที่ลูกค้าประทับใจได้
จากที่อธิบายมาทั้งหมด คุณจะเห็นได้ว่า การทำ Hyper Personalization นั้น ไม่ใช่แค่การวิเคราะห์ข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญของร้านอาหารคุณ ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะสร้างฐานลูกค้าประจำให้ร้านคุณแล้ว ยังสามารถเรียกลูกค้าใหม่ที่อยากจะเข้ามาใช้บริการร้านอาหารคุณมากยิ่งขึ้นด้วย
แหล่งที่มา: https://www.everydaymarketing.co/knowledge/hyper-personalization/, https://www.everydaymarketing.co/knowledge/difference-between-personalization-hyper-personalization/, https://www.everydaymarketing.co/knowledge/case-study-hyper-personalization-from-top-brand-starbucks-spotify-and-netflix/, https://kasikornbank.com/th/personal/the-wisdom/articles/Pages/Economic-Horizon_Onward27_2019.aspx, https://amarinacademy.com/6839/marketing/hyper-personalization/