10 เทรนด์อาหาร 2022
💚 ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและวัตถุดิบ ที่กำลังมองหาช่องทางในการต่อยอดธุรกิจ ให้ทันเทรนด์ในปัจจุบัน Hivecorps มี เทรนด์อาหาร 2022 ที่กำลังมาแรงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า มาแนะนำผู้ประกอบการให้ได้เตรียมตัวก้าวสู่เทรนด์การค้าแบบใหม่ที่อาจแมทช์กับธุรกิจของคุณ! ไม่ว่าจะเป็น Plant-based food และ เทรนด์ Ghost Kitchen
🔎 ในช่วงสิ้นปี “Whole Foods Market” หรือเชนซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ ที่มีสาขาทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดารวมกันมากกว่า 500 สาขา ได้ออกมาเปิดเผยลิสต์ 10 เทรนด์อาหาร 2022 ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในปีนี้ โดยอิงข้อมูลจากฝ่ายจัดซื้อทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกมากกว่า 50 ราย ส่วนเทรนด์อาหารที่น่าจับตามองจะมีอะไรบ้างที่ธุรกิจของคุณสามารถนำไปต่อยอดหรือตีตลาดคู่แข่งได้แบบง่ายๆ มีอะไรต้องไปดู

💚 1. นวัตกรรมการเกษตรที่หลุดจากกรอบเดิม (Ultra urban Farming)
ในปี 2013 Whole Foods ได้ขยายสาขาใหม่มายังย่านบรูคลิน สหรัฐอเมริกา โดยมีการสร้างเรือนกระจกไว้บนหลังคา เพื่อปลูกผลไม้และผักสลัดต่างๆ โดยใช้แสงอาทิตย์และพลังงานไฟฟ้าแบบหมุนเวียน 100% ในการเพาะปลูก
ทั้งนี้ การเกษตรในร่ม (Indoor Farming) หรือการทำเกษตรในพื้นที่ปิด กำลังเป็นที่นิยมเนื่องจากนวัตกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำและการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน (aquaponics) ซึ่ง Whole Foods ได้คาดการณ์ว่า ผู้ผลิตจำนวนมากจะหาวิธีการทำเกษตรที่หลุดพ้นจากกรอบเดิมๆ เพื่อผลผลิตที่ดีขึ้นและได้ประสิทธิภาพสูงสุด

💚 2. ส้มยูซุ (Yuzu)
ผลไม้ที่ปลูกทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และจีน ส้มยูซุมีรูปร่างคล้ายกับผลส้มทั่วไป แต่มีรสชาติค่อนข้างเปรี้ยว เมื่อนำไปเป็นส่วนผสมในซุป ก๋วยเตี๋ยว หรือเนื้อปลา ก็จะช่วยเพิ่มรสชาติให้มีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งส้มชนิดนี้ก็เริ่มมีอิธิพลในวงการอาหารและเป็นที่น่าจับตามองมากๆ ในปีถัดไป

💚 3. อยากกินมังฯ แต่ยังไม่ตัดใจจากเนื้อสัตว์ (Reducetarianism)
หาคุณมีความตั้งใจที่จะลดการบริโภคเนื้อสัตว์ เราคือเพื่อนกัน… Reducetarianism เป็นแนวคิดการบริโภคเนื้อสัตว์ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ไข่ นม ให้น้อยลง ซึ่งไม่ถึงขั้นเลิกทานเด็ดขาด แต่ยังสามารถทานได้อยู่ โดยแนวคิดดังกล่าวกำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มคนที่ใส่ใจสุขภาพและผู้ที่อยากควบคุมน้ำหนัก

💚 4. ผลิตภัณฑ์จากดอกชบา (Hibiscus products)
ดอกชบา เป็นดอกไม้ที่เราพบเห็นได้ทั่วไป มีสีสันสวยงาม จนทำให้ต่างประเทศได้ยกย่องให้เป็น ราชินีแห่งไม้ดอกเมืองร้อน (Queen of tropic flower) เลยทีเดียว ขณะเดียวกัน ดอกชบายังอุดมไปด้วยวิตามินซี ทำให้ผู้ผลิตหลายแบรนด์ นำดอกไม้ดังกล่าวไปสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชาดอกชบา แยมทาขนมปัง และโยเกิร์ต

💚 5. ม็อกเทล (Mocktail)
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป โดยเฉพะการใช้ชีวิตของคน Gen y (เกิดช่วงปี 1980-2000) และคน Gen Z (เกิดช่วงปี 1997-2012) ที่รักการโพสต์รูปหรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ บนโลกออนไลน์
เมื่อออกไปไหนไม่ได้ พวกเขาเลือกที่จะโพสต์รูปไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอยู่บ้านในหลากหลายมุม เช่น การทำอาหารที่บ้าน ไอเดีย work from home หรือวิธีกักตัวให้มีความสุข
จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป รวมถึงเครื่องดื่มไร้แอลกอฮลล์ หรือม็อกเทล ก็ได้รับความนิยมตามไปด้วยนั่นเอง โดย Whole Foods Market ระบุว่า ยอดขายของเครื่องดื่มไร้แอลกอฮลล์เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และคาดว่าจะสูงไปจนถึงปี 2022
💚 6. ธัญพืชที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Grains with a purpose)
ภาคเกษตรกรรมและปศุสัตว์ มีส่วนทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเกิดจากการย่อยสลายสารอินทรีย์ตามธรรมชาติของแบคทีเรียบางชนิด และจากปัจจัยอื่นๆ เช่น การย่อยอาหารของสัตว์ การไถพรวนหน้าดินหรือพื้นที่เพาะปลูก
ดังนั้น นอกจากการปลูกพืชผัก ผลไม้ หรือธัญพืช เพื่อให้ได้พืชผลทางการเกษตรแล้ว ผู้ผลิตจำนวนมากจะโฟกัสไปที่การทำเกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยในปี 2022
ยกตัวอย่างเช่น “Kernza” เมล็ดพันธ์ข้าวสาลียืนต้นที่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรม พัฒนาโดยศูนย์วิจัย The Land Institute ในสหรัฐอเมริกา ความพิเศษคือ การมีระบบรากที่เจาะลึกพื้นดินได้มากกว่ารากของพืชทั่วไป สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่จำเป็นต้องไถพื้นที่ทั้งหมดแล้วทำการเพาะปลูกใหม่ ทำให้สามารถควบคุมการพังทลายของหน้าดินและช่วยรักษาความสมบูรณ์ของธรรมชาติได้อีกทางหนึ่ง

💚 7. เมล็ดดอกทานตะวัน (Sunflower Seeds)
เมล็ดดอกทานตะวัน เป็นอาหารทานเล่นที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย เช่น มีโปรตีนสูง ช่วยให้ผิวพรรณสดใส และบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
ปัจจุบันมีการนำเมล็ดทานตะวันไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ส่วนผสมในแครกเกอร์ ไอศกรีม หรือชีสวีแกน (ชีสที่ไม่ได้ทำจากนม มีส่วนผสมหลัก เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ธัญพืช น้ำ) และต้องจับตาดูว่า ในปีหน้า เมล็ดชนิดนี้ จะมีบทบาทมากน้อยอย่างไรในวงการอาหาร

💚 8. มะรุม (Moringa)
มะรุม จัดเป็นพืชผักสมุนไพร โดยมีต้นกำเนิดในแถบทวีปเอเชีย อย่างประเทศอินเดิยและศรีลังกา มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นที่โตเร็ว ปลูกง่าย ทนแดดทนฝนได้ดี สามารถรับประทานได้ทุกส่วน ไม้ว่าจะเป็นฝัก ใบ ดอก เมล็ด และราก อีกทั้งมะรุม ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซี แคลเซียม และแร่ธาตุหลายชนิด
ในต่างประเทศ ใบมะรุม ถูกสกัดมาเพื่อใช้เป็นส่วมผสมในอาหารต่างๆ เช่น ขนมอบ ซอส รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่หลายคนคาดไม่ถึงอย่างของหวานแช่แข็ง หรือโปรตีนบาร์

💚 9. น้ำอัดลม สูตรเฮลตี้ (Functional Fizz)
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้คนจำนวนมากต่างมองหาอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทานแล้วสุขภาพดี แต่ยังสามารถสัมผัสรสชาติความอร่อยได้แบบเต็มๆ
เราจึงเห็นได้ว่าผู้ผลิตในต่างประเทศ เริ่มทำน้ำอัดลมผสมโพรไบโอติกส์ ซึ่งมีส่วนช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและการปรับสมดุลในลำไส้ รวมถึงการใส่ส่วนผสมจากธรรมชาติลงไป เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการดื่มน้ำอัดลมในทุกวันนี้

💚 10. ขมิ้นชัน (Turmeric)
ขมิ้นชัน หรือที่ประเทศต่างๆ ให้การยอมรับว่าเป็น เครื่องเทศสีทอง (the golden spice) ถือเป็นสมุนไพรที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จากสรรพคุณที่หลากหลาย เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านมะเร็ง ลดริ้วรอยและช่วยให้ผิวพรรณสดใสยิ่งขึ้น
โดยในอเมริกา มีการนำขมิ้นชันไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค เช่น ซีเรียล กะหล่ำปลีดองเปรี้ยว (Sauerkraut) หรือแม้แต่ไอศกรีม

ปัจจุบันธุรกิจและอุตสาหกรรมอาหารขับเคลื่อนได้ก็เพราะอุปทานของผู้บริโภคทั้งหลาย ดังนั้นธุรกิจอาหารทั้งหลายจึงไม่ควรมองข้าม เทรนด์อาหาร 2022 นั่นอาจเป็นการทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจแบบที่เราอาจยังไม่ทันตั้งตัวเสียด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ทุกร้านอาหารควรคำนึงถึงนั่นก็คือวัตถุดิบที่มีคุณภาพและราคาถูก เพื่อควบคุมต้นทุนในการประกอบธุรกิจ สั่งวัตถุดิบ ของสดต่าง ๆ จาก HIVE Market สิ รับรองว่าร้านอาหารของคุณจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย แถมอาหารที่ออกมาก็ถูกใจผู้บริโภคอีกต่างหาก มีแต่ได้กับได้
อ่านบทความ: รสดีเด็ด มรดกชิ้นสุดท้ายที่ ‘พ่อ’ สร้างไว้ให้